logo-heading

"ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด" ทีมที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิ๊กทีมทีมหนึ่งของเมืองไทยใน พ.ศ.นี้ พวกเขายกระดับและมาตรฐานของตัวเองขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำหัวแถวของไทยได้ 7-8 ฤดูกาลแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 ก็สถาปนาตัวเองเป็นทีมลุ้นแชมป์มาโดยตลอด

และในทุกๆ ฤดูกาลพวกเขาก็มักจะเริ่มต้นได้ดี นำเป็นจ่าฝูง บางฤดูกาลนำหัวตารางจนจบเลกแรก แต่สุดท้ายก้จะมาแผ่วในเลกสอง และตกม้าตายเองตลอด สุดท้ายไปไม่ถึงฝั่งฝัน และไม่เคยสัมผัสกับถ้วยแชมป์อะไรเลยตลอดระยะเวลากว่า 14-15 ฤดูกาลที่ผ่านมา ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก สโมสรม.กรุงเทพ มาเป็น แบงค็อก ยูไนเต็ด

ผลงานดีที่สุดในไทยลีกของทรู แบงค็อก ก็คือการคว้ารองแชมป์ ซึ่งเป็นรองแชมป์มาแล้วถึง 3 ครั้ง ล่าสุดก็คือเมื่อฤดูกาลที่แล้ว 2023/24 และตั้งแต่ฤดูกาล 2015 เป็นต้นมา บียู จะจบหัวตารางตลอด ไม่เคยต่ำกว่าอันดับ 5 เลย แต่ก็ยังไม่เคยได้แชมป์เสียที

เช่นเดียวกับในฟุตบอลถ้วย พวกเขาเคยเข้าชิงฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ มาสองหนในปี 2017 กับ เชียงราย และล่าสุดก็คือฤดูกาลที่แล้ว ชิงกับ บุรีรัมย์ ซึ่งทั้งสองครั้งก็อกหักได้แค่ที่สองทั้งสองครั้ง

มันจึงเหมือนเป็นคำสาปของ ทรู แบงค็อก ที่เหมือนกับว่าพวกเขาจะเป็นได้แค่รองแชมป์เท่านั้น และจะไม่มีวันขึ้นไปเป็นแชมป์ได้

อย่างในซีซั่นนี้ ฟุตบอลไทยลีก ก็ดูเหมือนจะเป็นได้แค่พระรองเหมือนเดิม เพราะล่าสุดโดนบุรีรัมย์ จ่าฝูงนำห่างถึง 7 แต้ม เหลือโปรแกรมสามนัด สุดสัปดาห์นี้ทีมเซราะกราวถ้าเก็บสามแต้มได้พวกเขาก็จะป้องกันแชมป์ไทยลีกได้อีกสมัย ส่วนบียู ถ้าไม่โดนแซงช่วงท้ายก็จะเป็นรองแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 4

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงต้นฤดูกาล ทีม บียู เหมือนจะล้างคำสาปของตัวเองได้ ด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมเปี้ยน คัพ เมื่อพวกเขาสามารถเอาชนะ บุรีรัมย์ ได้ 2-0 

บทพิสูจน์ \"แข้งเทพ\" กับแชมป์แรกที่รอคอยมานานกว่า 15 ปี

นี่คือแชมป์แรก ถ้วยใบแรกของสโมสร "ทรู แบงค็อก" ที่ได้เอาไปเก็บไว้ในตู้โชว์ของสโมสร ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ใช่แชมป์รายการเมเจอร์ หรือรายการที่แข่งขันกันเป็นลีกหรือทัวร์นาเม้นท์ มันคือฟุตบอลนัดเดียวที่เอาแชมป์ไทยลีก และแชมป์เอฟเอ คัพ มาเตะกันก่อนเปิดฤดูกาล

ดังนั้นก็ยังบอกไม่ได้เต็มปากว่านี่คือแชมป์แรกของ ทรู แบงค็อก เพราะดูแล้วสิ่งที่บียู ต้องการก็คือการคว้าแชมป์ในรายการเมเจอร์อย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ดีแชมป์ไทยแลนด์ ชปค. ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่พวกเขาจะเดินหน้าคว้าแชมป์รายการต่อๆ ไป

แม้เป้าหมายสูงสุดอย่างไทยลีก มันจะยังทำไม่ได้ แต่ปีนี้พวกเขามีโอกาสที่ดีที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยอันดับหนึ่งของประเทศอย่าง "ช้างเอฟเอ คัพ" ซึ่งล่าสุดก็ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้สองปีติดต่อกัน

ที่บอกว่าเป็นโอกาสดีที่จะคว้าแชมป์ก็คือ คู่ชิงของบียู ในปีนี้คือ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ทีมจากไทยลีก 2 (T2) ซึ่งนี่คือทีมจากลีกรองทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่ได้เข้ามาชิงเอฟเอ คัพ

ผมไม่ได้จะดูถูกหรือด้อยค้าทีม ดีพี กาญจนบุรี แต่อย่างใด เพียงแต่เราว่ากันตามหน้าเสื่อ สำหรับศักยภาพตัวผู้เล่น และชื่อชั้นของทีม ยังไงแล้ว บียู ก็มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์มากกว่า 

แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน ฟุตบอลถ้วยนัดเดียว โดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ บางที ดีพี กาญจนบุรี อาจจะสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์รายการนี้ก็เป็นได้

สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ มันก็ขึ้นอยู่กับ ทรู แบงค็อก แล้วละว่า พวกเขาจะทำได้หรือเปล่า ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นใจขนาดนี้

ที่ผ่านมาในการลงเตะนัดชิงสองครั้งของ ทรู แบงค็อก ปี 2017 เจอ สิงห์ เชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าบอลถ้วยอยู่แล้ว สุดท้ายแพ้ไป 4-2

มาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เข้าไปชิงกับ บุรีรัมย์ ซึ่งเราก็รู้กันอยู่ ใครไปชิงกับบุรีรัมย์ ไม่ว่าจะถ้วยไหน โอกาสรอดยาก และก็แพ้ไป 2-0

ทั้งสองครั้งที่ผ่านมา บียู ต้องชิงกับทีมในไทยลีก ด้วยกัน ซึ่งตัวผู้เล่นมันไม่ได้ต่างกันมาก และทีมที่เข้าชิงด้วยก็เป็นทีมในกลุ่มหัวตารางเหมือนกัน ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเกมวันนั้นว่าจะออกมาเป็นแบบไหน

แต่มาในฤดูกาลนี้ พวกเขาได้เจอกับทีมที่อยู่ในลีกที่ต่ำกว่า คือมันคงจะไม่มีอะไรที่เข้าทางไปกว่านี้แล้ว

แชมป์แรกที่รอคอย มันมีโอกาสที่จะจบในซีซั่นนี้ ถ้าพวกเขาไม่ประมาท และเล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ขอเอาใจช่วยดราก้อน ปทุมวันฯ ด้วยเช่นกัน ถ้าพวกเขาหักปากกาเซียน โค่นบียู และคว้าแชมป์ได้ มันก็จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และถูกพูดถึงไปอีกนานแน่นอน

สุดท้ายแล้วบียู จะปลดล็อคคว้าแชมป์แรกที่รอคอยได้หรือไม่ คงต้องมารอดูกัน ซึ่งถ้าทำได้ มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การไล่ล่าแชมป์ที่ 2 แชมป์ที่ 3 ต่อไป...

 

#ชิชาริเต่า  

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline