logo-heading

กำลังเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงและฮือฮาของแฟนบอลบนโลกโซเชี่ยลอยู่ขณะนี้สำหรับ นีลล์ เอเธอริดจ์ นายด่านทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่เคยผ่านประสบการณ์บนเวทีพรีเมียร์ลีกกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ โดยมีรายงานว่ากำลังจะย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่พลพรรค “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ไทยลีก 9 สมัยในฤดูกาลหน้า หลังเจ้าตัวกำลังจะหมดสัญญากับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ กลายเป็นฟรีเอเยนต์ และได้มีการบรรลุข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสองฝ่าย

ทีมงานขอบสนามบอลไทย จะพาแฟนๆ ไปรู้จักกับนายด่านดีกรีอดีตนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในอาเซียน ไทม์ไลน์การเฝ้าเสาก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร

ทำความรู้จัก “นีล เอเธอริดจ์ ว่าที่นายด่านคนใหม่ “ปราสาทสายฟ้า” ?

จุดเริ่มต้น

นีลล์ เอเธอริดจ์ เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1990 ปัจจุบันอายุ 34 ปี โดยมีคุณพ่อเป็นชาวอังกฤษ และคุณแม่เป็นชาวฟิลิปปินส์ เกิดและเติบโตที่อังกฤษ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนของ เชลซี ช่วงระหว่างปี 2003-2006 ก่อนโยกไปเฝ้าเสาทีมเยาวชนของฟูแล่มก่อถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลยแม้แต่เกมเดียว

หลังจากนั้นเส้นทางฟุตบอลของเขาชีพจรลงเท้าถูกปล่อยยืมให้กับแต่ละสโมสรมากมายทั้ง เลเทอร์เฮด, ชาลตัน แอธเลติก, บริสตอล โรเวอร์ส, ครูว์ อเล็กซานดร้า และโอลแฮม แอธเลติก ก่อนได้ย้ายไปร่วมทัพด้วยสัญญาถาวรในปี 2014 แต่ก็เป็นได้เพียงตัวเลือกมือ 2 และ มือ 3 เท่านั้น

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิต

นีล เอเธอริดจ์ ยังคงไม่ย่อท้อที่จะเดินหน้าหาโอกาสเฝ้าต่อไปทั้งกลับร่วมทีม ชาลตัน แอธเลติก รวมถึงย้ายไปร่วมทีม วอลซอลล์ ดูเหมือนว่าการย้ายทีมครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิตของเขาก็ว่าได้หลังได้โอกาสที่เพิ่มมากขึ้นสามารถยึดมือหนึ่งได้สำเร็จ โดยลงสนามช่วยทีมไปทั้งหมด 81 นัด

ด้วยความมั่นใจทำให้เข้าโชว์ฟอร์มได้โดดเด่น ฝีมือเกิดไปเตะตา คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ก่อนที่จะถูกดึงมาเฝ้าเสาในฤดูกาล 2017/18 และในฤดูกาลนั้นเขามีส่วนสำคัญช่วยให้ทัพ "เดอะ บลูเบิร์ดส์" กลับขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้เคยเล่นอยู่บนลีกสูงสุดในฤดูกาล 2013/14

ทำความรู้จัก “นีล เอเธอริดจ์ ว่าที่นายด่านคนใหม่ “ปราสาทสายฟ้า” ?

อย่างไรก็ตาม นีล เอเธอริดจ์ พา คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ โลดแล่นบนพรีเมียร์ลีกได้เพียงฤดูกาลเดียวต้องตกชั้นกลับมาสู่เดอะแชมเปี้ยนชิพอีกครั้ง หลังจากนั้นสถานการณ์ของเขากับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เริ่มไม่แน่นอนตกเป็นมือ 2 อยู่บ่อยครั้งทำให้ต้องย้ายไปร่วมทีม เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในช่วงฤดูกาล 2020/21 ก่อนลงสนามรับใช้ทีมรวมทั้งสิ้น 70 นัด

เวทีระดับชาติ

นีล เอเธอริดจ์ ตัดสินใจเลือกที่จะรับใช้ทีมชาติฟิลิปปินส์แผ่นดินแม่ ซึ่งก็ต้องบอกกันตามตรงว่ามีโอกาสได้ลงเฝ้าระดับชาติมากกว่ารอไปติดทีมชาติอังกฤษ เพราะมองว่าเป็นโอกาสที่ยากและต้องฝ่าด่านกับนายด่านดีกรีระดับพรีเมียร์ลีกมากมายหลายคน

การที่ทัพตากาล็อคได้นายด่านประสบการณ์สูงมาร่วมที่ ถือเป็นผลดีที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลของฟิลิปปินส์ และปัจจุบันคือกัปตันทีมที่ทีมแทบไม่ได้

ทำความรู้จัก “นีล เอเธอริดจ์ ว่าที่นายด่านคนใหม่ “ปราสาทสายฟ้า” ?

ทายาทสืบทอดมือหนึ่ง "ศิวรักษ์"

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุ่มค่าเหนื่อยมหาศาลดึงตัว นีล เอเธอริดจ์ มาร่วมทีม เพื่อเข้ามาเป็นทายาทมือ 1 ถัดจาก ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่อายุเพิ่งย่างเข้า 40 ปี

ตลอดที่ผ่านมาสโมสรดังแดนอีสานใต้พยายามหาตัวแทนระดับท็อปที่จะเข้ามาสืบทอดมือหนึ่งให้กับทีมซึ่งมองว่าเป็นตำแหน่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อหาคนที่ใช่ที่สุด กระทั่งจังหวะที่นายด่านวัย 34 ปี เพิ่งหมดสัญญากลายเป็นฟรีเอเยนต์ ทำให้ไม่รอช้าที่จะเดินหน้าเจรจาก่อนบรรลุข้อตกลงกันได้ในที่สุด

และแน่นอนขณะนี้เหลือแค่รอภาพชูเสื้อกันอย่างเป็นทางการ น่าสนใจประสบการณ์ที่เขาเคยบนเวทีระดับสูงจะฝากความหวังและช่วยยกระดับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มากน้อยแค่ไหนติดตามไปพร้อมกัน

CHUNKA

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline